“ร่วมมือกันเพื่อเอาชนะความไม่แน่นอน”
เราได้สอบถาม Burkhard Eling ผู้เป็น CEO ของ DACHSER เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของบริษัทของครอบครัวในด้านโลจิสติกส์ปี 2030 รวมถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์นั้น
คุณ Eling โลกในภาวะวิกฤติส่งผลอย่างไรต่อด้านโลจิสติกส์
Burkhard Eling: หลังจากทราบการคาดการณ์ที่ไม่สู้ดีนักเมื่อไม่นานมานี้ เหล่านักเศรษฐศาสตร์ได้เริ่มรายงานถึงสัญญาณแรกของการฟื้นตัว เศรษฐกิจโลกนั้นไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติอีกต่อไป เพียงแต่จะยังค่อยเป็นค่อยไปอีกซักพัก สิ่งที่ผมมั่นใจเลยก็คือ ปี 2023 จะเป็นอีกปีที่มีความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เราพบความยากลำบากอย่างมาก แต่ก็เป็นเพราะพนักงานและพาร์ทเนอร์ของเราที่ทำให้เราคอยมอบข้อเสนอและบริการให้มีคุณภาพสูงสุดอยู่เสมอได้ ซึ่งลูกค้าของเราก็สังเกตเห็นและขอบคุณในเรื่องนี้ ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะความไม่แน่นอน
จุดใดที่คุณเห็นถึงอุปสรรคครั้งใหญ่ในตอนนี้
ระดับความไม่แน่นอนนั้นไม่ได้ลดลงไปแต่อย่างใด ซัพพลายเชนจะยังคงอ่อนแอต่อไป ตอนนี้การขาดแคลนพนักงานขับรถและบุคลากรที่มีคุณสมบัติอื่นๆ กลายเป็นปัญหาระดับโลก นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาด้านต้นทุนพลังงานที่สูงด้วย เรามุ่งมั่นที่จะรับมือกับปัญหานี้ในการปฏิบัติงานแต่ละวันของเรา ขณะเดียวกันก็ยึดมั่นที่จะดำเนินการตามกลยุทธ์สำหรับอนาคตด้วย
เรามีแนวคิดที่ชัดเจนว่า DACHSER ควรจะไปอยู่ที่จุดใดภายในปี 2030 กล่าวคือ บริษัทควรวางตัวอย่างไรในฐานะผู้จ้าง บริการใดจะได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้า และเราจะช่วยบรรลุเป้าหมายด้านสังคมและสภาพอากาศได้อย่างไรในฐานะบริษัทของครอบครัว
หลักการใดจะช่วยนำทาง DACHSER บนเส้นทางสู่อนาคต
บริษัทของเราจะขับเคลื่อนโดยโปรแกรมที่เน้นกลยุทธ์ โดยมีการนำมาใช้งานอยู่ในธุรกิจและโดเมนของกิจการทั้งหมดของเรา โดยโปรแกรมเหล่านี้จะเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ การเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัล การจัดหาและการยกระดับบริการแบบรวมที่คุณภาพสูง และการขยายเครือข่ายของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อโซลูชั่นแบบครบวงจรระดับโลก เราได้ดำเนินการในโครงการ Idea2net ซึ่งเป็นโครงการปกป้องสภาพอากาศของ DACHSER อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินการด้านสภาพอากาศตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยจะครอบคลุมการดำเนินการของ DACHSER ในด้านการจัดส่งปลอดแก๊สเรือนกระจก (Emission-Free Delivery) การวิจัยและการพัฒนาในด้านรถบรรทุกไฟฟ้าและการขับขี่ด้วยพลังงานไฮโดรเจน ตลอดจนการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท
Burkhard Eling ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ DACHSER
ทั้งหมดนี้สำคัญอย่างไรกับธุรกิจแต่ละส่วนและลูกค้าของธุรกิจเหล่านี้
ในภาคโลจิสติกส์ทางท้องถนน เรามุ่งมั่นในด้านการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายและยกระดับการให้บริการที่เรามี ตัวอย่างเช่น การขยายบริการรับเหมาด้านโลจิสติกส์ การเปิดตัวโซลูชั่นองค์กรใหม่ เช่น ด้านเครื่องสำอางและแฟชั่น ตลอดจนนำแนวคิดแบบหลายช่องทางของลูกค้าเรามาปรับใช้ ในภาคโลจิสติกส์ทางอากาศและทางทะเล ความสามารถด้านการจัดการที่เพิ่มเข้ามาและผู้เล่นในตลาดรายใหม่ๆ อย่าง Maersk, CMA และ MSC นั้นก็กำลังเพิ่มแรงกดดันทางการแข่งขันอย่างมหาศาลในเซกเมนต์การขนส่งสินค้าทางอากาศที่ช่วงนี้กำลังมาแรง ซึ่งก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับอัตราการขนส่งสินค้าทางทะเล เป้าหมายหลักที่เรามุ่งเน้นคือการมีพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีโซลูชั่นที่ปรับให้เป็นมาตรฐานและระบบที่มีการยกระดับและปรับให้เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าให้กับซัพพลายเชนที่ซับซ้อนของลูกค้าเรา
ปัจจัยหลักในขั้นตอนการเปลี่ยนให้เป็นดิจิทัลคืออะไร และจนถึงตอนนี้บริษัทมีความคืบหน้ามากเท่าใดแล้ว
ก่อนอื่นเลยก็คือ เราได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลในกระบวนการทางธุรกิจ รวมถึงเครื่องมือและโซลูชั่นที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้ลูกค้า พนักงาน และพาร์ทเนอร์เป็นอย่างมาก และเราก็ยังมีการอัปเกรดระบบหลักสำหรับการขนส่งและคลังสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผสานการทำงานกับระบบภายนอกที่เกี่ยวข้อง การรักษาความปลอดภัย IT เองก็เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน เราทำงานอย่างหนักในด้านการเปลี่ยนแปลงทาง IT และเริ่มเห็นความสำเร็จในขั้นต้นบ้างแล้ว แต่ทางเดียวที่เราจะบรรลุเป้าหมายได้ก็คือเราต้องพาพนักงานทุกคนของเราร่วมเดินไปในเส้นทางนี้
แล้วด้วยวิธีใด
การร่วมงานในทุกระดับ การเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และวัฒนธรรมองค์กรอันแข็งแกร่งที่รวมถึงวัฒนธรรมการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลในแง่บวก สิ่งเหล่านี้จะยังคงมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ของเราต่อไปในอนาคต ใจความสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ “โลจิสติกส์คือธุรกิจของผู้คน” สิ่งที่คอยผลักดันในเรื่องนี้ก็คือความเชื่อมันที่ว่าพนักงานของ DACHSER นั้นเป็นและจะยังคงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของบริษัท
ไปที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ DACHSER ในด้านโลจิสติกส์ปี 2030
